อันดับแรกต้องแยกก่อนว่าเหตุการณ์นี้เกิดกับเด็กเล็กหรือเด็กโต ในกรณีที่เป็นเด็กเล็กไม่เกินสามขวบ เมื่อมีการพูดสิ่งที่เขาไม่คุ้นเคย เด็กอาจจะงงถึงการเปลี่ยนแปลงของโทนเสียง เขาอาจจะรู้สึกแปลกและกลัว เด็กก็จะเดินไปหาพื้นที่ปลอดภัยของเขาเอง เช่นไปหาคนในบ้านอีกคนที่พูดในสิ่งที่คุ้นเคย ถ้าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นกับลูกคุณก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติครับ ให้ทำต่อไป แต่ต้องใจเย็นๆทำให้ถูกหลักการและต้องใช้เวลาสักนิดให้เด็กปรับตัว อย่าพยายามพูดเยอะ โดยเฉพาะพูดเป็นประโยค ให้พูดให้น้อย เน้นเป็นคำ หรือวลีง่ายๆ แล้วมีภาษาท่าทางประกอบทุกครั้ง ที่สำคัญ “ไม่แปล” ถึงแม้ว่าเด็กไม่เข้าใจ เพื่อบังคับให้เด็กตีความด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้า กระบวนการเหล่านี้จะเป็นการสร้างโหมดภาษาที่สองให้กับเด็ก
สำหรับเด็กโต…เช่นสี่ห้าขวบขึ้นไป เด็กเริ่มจะรู้เรื่องแล้ว…ก่อนที่จะสอนพ่อแม่จะต้องค้นหาแรงบันดาลใจของเด็กให้พบเสียก่อน ซึ่งอาจจะเป็นการไปเจอตัวละครที่เด็กชื่นชอบในต่างประเทศ เช่นแซนต้าครอส เจ้าชาย เจ้าหญิงในเทพนิยาย ซึ่งเด็กแต่ละคน ครอบครัวแต่ละครอบครัวจะมีเรื่องราวเหล่านี้แตกต่างกัน ให้ค้นหาให้พบ เมื่อเจอแล้วก็นำสิ่งนี้ไปผูกกับเงื่อนไขว่า พ่อแม่กำลังฝึกลูกพูดภาษาอังกฤษอยู่นะ เพราะไปต่างประเทศจะได้พูดคุยกันรู้เรื่อง ต้องให้เด็กยอมรับ และมีเป้าหมายในการทำ ถ้าคุณไม่ผ่านเงื่อนไขตรงนี้แล้วฝืนทำ เด็กจะต่อต้านและไม่เอาในที่สุดครับ และสิ่งที่กล่าวมานี้ก็คือหลักข้อที่แปดของแนวคิดเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้…หาแรงบันดาลใจ ผูกกับเงื่อนไข