Posted by YaYo & JaJa & MamaKim on September 5, 2010 at 8:30pm
มองย้อนกลับไปนับจากวันเริ่ม 26 ส.ค.2552 …ถึงวันนี้ผ่านไปแล้ว 1ปีนิดๆ….
….. ที่คนเป็นแม่อย่างเราที่เรียกชื่อแทนตัวกับลูกว่า “หม่าม๊ากิ้ม”
มีพื้นฐานครอบครัวคนจีนแต้จิ๋วที่เสมือนเป็นครอบครัว 2ภาษา ไทย-จีน
แต่เติบโตขึ้นมาแบบหนึ่งภาษาอย่างน่าเสียดาย …
เพราะไม่ได้มีโอกาสรู้จักแนวคิดแบบ “เด็ก2ภาษา พ่อแม่สร้างได้” ….
กิ้มสามารถฟังภาษาจีนแต้จิ๋วได้นิดหน่อยแบบจับใจความเอา การพูดอาจเรียกได้ว่า พูดสื่อสารไม่ได้..ได้แค่บางประโยค ศัพท์บางคำ ที่ฝังลึกในความทรงจำเราเท่านั้น
…นั่นเป็นสิ่งที่นึกเสียดายโอกาสการเรียนรู้ตรงนั้น
แต่นับจากวันที่เราได้มีโอกาสรู้จักแนวคิด “เด็ก2ภาษา”
นั้นที่นับว่าเป็น”จุดเปลี่ยน” ในชีวิตจุดหนึ่ง
…เมื่อเรา2แม่ลูก…เริ่มไปเป็นแม่ลูกที่สื่อสารกันภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่เคยคิดฝันมาก่อน…
…อันเนื่องมาจาก ภาษาอังกฤษของเราที่ไม่ดี…
….เติบโตเรียนรู้จากโรงเรียนในต่างจังหวัด ซึ่งใช้ภาษาอังกฤษน้อยมาก
ตอนแรกก็คิดหวั่นๆว่าจะทำได้รึเปล่า?
แต่เมื่อได้อ่านหนังสือ”เด็ก2ภาษา พ่อแม่สร้างได้ 1″ และได้เข้ามาเวป2ภาษา
…ทำให้มองเห็นแก่นแท้ของแนวคิด..ว่ามีจริง..ทำได้จริง
…ยิ่งเห็นคลิปเด็กๆที่เริ่มมาแล้ว ฝึกแล้วได้ผล
…มันเหมือนแรงผลักดันมหาศาลมาจากไหนไม่รู้ว่า “เราต้องทำให้ได้” ..เราจะลองดู
…และก็นับเป็นความโชคดีสุดๆ ที่กิ้มตัดสินใจเริ่ม
….เพราะเมื่อได้เริ่มก้าวแรก ก้าวที่ 2 ที่ 3 และอีกหลายๆก้าวก็ตามมาแบบอัติโนมัติ
…อันเนื่องมาจาก พัฒนาการทางด้านภาษาของลูกที่ดีขึ้นเรื่อยๆ
….ทำให้เป็นเหมือนน้ำล่อเลี้ยงให้เราสู้ต่อๆไป
นึกย้อนไปขำๆ ในช่วงก่อนที่เรายังไม่มีลูก…
มีเพื่อนเคยถามเป้(สามี)เล่นๆว่า..
เอะ ถ้าลูกเธอเกิดมาจะให้ลูกเรียก “พ่อ” หรือ “ป่าป๊า”
แต่คุณเป้กลับตอบไปขำขำว่า “แด๊ดดี๊” ในชั่วโมงนั่นทุกคนฮากลิ้ง
…รวมถึง กิ้มและเป้ ที่ตอนนั้นเป็นเพียงมุข ขำขำ พูดเล่นๆกับเพื่อน
…เพราะเราไม่เคยคิดไง ว่าวันนึงลูกจะเรียกเราว่า “Daddy” “Mommy” ออกมาจริงๆ
……………นึกย้อนทีไร อมยิ้มกันทุกที :P……………………….
ตอนนี้…กิ้มติดเวป2ภาษางอมแงม…หยั่งกะเด็กวัยรุ่นติดแชต…ว่างไม่ได้ต้องแว๊ปเข้ามาให้ได้
…ถามว่าเหนื่อยมั๊ย บอกเลยค่ะว่า เหนื่อย…แต่เหนื่อยแบบมีความสุขค่ะ
…บางวันก็สงสัยว่า เอ้..เรามานั่งหลังขดหลังแข็งอยู่หน้าจอนานๆทำไม
…ละครไทยน้ำเน่า บางทีเราก็อยากดูน๊ะ…แต่เราขอทบทวนประโยคอังกฤษที่จด+ปริ๊นมาหนาเตอะ
…ภาพที่เราเปิดประตูห้องนอนเข้าไปแล้วเห็นภาพ 2พ่อลูกหลับปุ๋ยอย่างสบาย…ชินตามาก
…แต่ความเหนื่อยทั้งหลายก็ทดแทนด้วย —>
“ภาพลูกสาวนั่งเล่นแล้วบ่นพึมพำคนเดียวเป็นภาษาอังกฤษ” หรือ
” ร้องเพลงภาษาอังกฤษ เพลงของเค๊าเอง แต่งเองเสริมเอง” หรือ
“ในวันที่ไปร้านอาหาร แล้วตะโกนเรียกกระต่าย ” Come here rabbit , come to Yayo”
“บางวันลูกสาวก็ปลุกเราด้วยการ ใช้มือน้อยๆมาสะกิด พร้อมพูดว่า
“Mommy Mommy Goodmorning! Wake up Wake up ,This’s morning time”
“วันดีคืนดีก็มากระซิบที่ข้างหู “Mommy, I love you so much!” โอ้ย ฟังแล้วจั๊กกะจี้หูชะมัด..ยิ้มปริ
………………….. ภาพเหล่านี้ เวลาเห็นหรือนึกถึงทีไรก็แอบอมยิ้ม ปลื้มใจได้ตลอด :P…………………..
อีกหลายๆอย่าง เป็นผลพลอยได้ จากการฝึกลูกเป็นเด็กสองภาษา
–> ผลกับตัวเอง….รู้สึกว่าภาษาดีขึ้น พัฒนาขึ้นกว่าแต่ก่อน (ยังไม่เก่งค่ะ แต่ตัวเองรู้สึกได้ว่าดีขึ้นแน่ๆ)
–> ผลกับคุณสามี…มีเรื่องคุยกับเพื่อนฝูงเรื่องฝึกลูกสาวสุดเลิฟ เป็นเด็ก2ภาษาอย่างภาคภูมิใจ
–> ผลกับคนในครอบครัว..คุณปู่ คุณย่า อากง อาม่า ได้ศัพท์ใหม่จากหลานสาวไปโดยปริยาย
…อาม่าเห็นหลานพูดอังกฤษจนแซวออกมาว่า “อายาโยอ่ะ…ฝรั่งหัวดำ” 😛
–> ผลเพื่อนๆ และสังคม…ประหลาดใจ ชื่นชมยินดี …สงสัยว่าทำไม 2แม่ลูกหน้าตาหมวยๆ ซึ่งมีพ่อไทยแท้ๆ ทำไมสื่อสารกันภาษาอังกฤษ…..สร้างแรงบันดาลใจให้กับครอบครัวอื่นๆต่อไป
เขียนมาถึงตรงนี้….ถ้าคุณเป็นคนนึงที่เพิ่งเริ่มหรือจดๆจ้องๆจะเริ่มอยู่…
อยากบอกว่า คุณไม่มีข้ออ้างไหนเลยค่ะ ที่จะไม่เริ่มทำ
…เรื่องเวลา เรื่องความไม่เก่งอังกฤษ หรือ เรื่องอื่นใด ไม่น่าเป็นอุปสรรคอีกต่อไป
…….ทุกคนทำได้ แล้วรับรองว่าผลที่ได้ลืมเหนื่อยแน่นอนค่ะ
ขอบคุณ คุณบิ๊ก พี่ตุ๊กตา และ น้องเพ่ย เพ่ย…ผู้สร้างแรงบันดาลใจเริ่มต้น
ขอบคุณทุกคนในหมู่บ้านแห่งนี้ ผู้ร่วมเดินทางไปด้วยกัน…เราจะไปต่อด้วยกันนะคะ…..Give me five!!!
กิ้ม เป้ น้องยาโย