ประสบการณ์ Baby Sign ของเจ้า Dragonในการเชื่อมโยง 2 ภาษา ( พ่อ Dragon ขอแจมด้วยครับ ) ตอนที่ 1

Posted by พ่อแม่น้อง Dragon on January 2, 2010 at 10:30am

ก่อนอื่นต้องขอกล่าวสวัสดีปีใหม่กับทุกครอบครัวของหมู่บ้าน 2 ภาษา ขอให้เด็กๆในครอบครัวของหมู่บ้าน 2 ภาษาทุกคน เป็นเด็กที่ดี และเก่งภาษาทุกคนครับ เข้ามาเป็นสมาชิกหมู่บ้าน 2 ภาษามาตั้งนาน แต่ยังไม่ได้ฤกษ์จะเขียนบอกเล่าประสบการณ์ของตนเองบ้าง วันนี้ได้จังหวะ อาศัยช่วงขึ้นปีใหม่ ไม่ได้ไปไหนเลยเขียนเล่าเรื่องที่อาจพอมีประโยชน์กับท่านอื่นบ้างเกี่ยวกับ Baby Sign กับเจ้าตัวเล็กของครอบครัวผมเอง

เริ่มแรกเลยไปหาหนังสืออ่านเล่น ไปเจอหนังสือ “ เด็กสองภาษาพ่อแม่สร้างได้ “ เลยรู้สึกสนใจ ลองอ่านดู 3 วันก้อจบเล่ม แต่ยังมึนๆภาษาอังกฤษสำหรับเด็กในเล่ม บางคำยังไม่รู้เลยจะไหวหรือ ? พอดีคุณบิ๊กจัดสัมนาครั้งแรกที่ TK Park ประมาณปลายมีนาคม 52 เลยตัดสินใจบึ่งรถเข้ากรุงเทพไปลองฟังดู และมีโอกาสได้คุยกับคุณบิ๊ก ทำให้จุดประกายขึ้นมาอย่างฉับพลัน

เนื่องจากเจ้า dragon หรือชื่อจีนว่า จื่อเชวียน ยังเล็กประมาณ 6 เดือนกว่า ( ณ.ตอนนั้น) คุณบิ๊กบอกว่าเป็นจังหวะเหมาะเลยที่จะทำระบบ opolได้ดี ลองอ่านดูหนังสืออีกหลายรอบ ไปสะดุดเจอ baby sign ช่วยรู้ความต้องการเด็กทารก ,เด็กเล็กที่ยังพูดไม่ได้ หรือไม่ชัดเจน และยังใช้ signนี้เชื่อมสองภาษาได้ เลยค้นคว้าหาข้อมูลทาง net ต่อ เจอข้อมูล ประโยชน์มากมายที่ใช้ baby sign กับลูก เจอคลิปเด็กฝรั่งที่ใช้ baby signเพียบเลย คุยกับภรรยาว่า เราน่าจะมาใช้ baby sign กับลูกบ้าง

เนื่องจากภรรยาพอมีความรู้ภาษาจีนอยู่บ้าง ก็รับหน้าที่ภาษาจีนไป ส่วนผมก็ต้องรับหน้าที่ภาษาอังกฤษไป ความรู้ยอมรับว่าต้องไปรื้อฟื้นอีกเยอะ ตอนทำงานบริษัท เคยไปอบรมต่างประเทศบ้างคอร์สสั้นๆ เคยทำงานติดต่อฝรั่งบ้าง แต่ภาษาไม่ได้พัฒนาไปตามอายุเท่าที่ควร ไม่เคยไปเรียนต่อต่างประเทศ ทั้งผม กับภรรยาก็ต้องลุยใช้ภาษาแบบลูกทุ่ง แต่ก็พยายามศึกษาเรื่องการออกเสียงให้ถูกต้อง คิดไปคิดมา ไม่ใช่ใคร…ก็เพื่อลูกไง จะทำ opol ปรึกษาภรรยา ภรรยาก้เห็นด้วย แล้วใครพูดไทยกับลูก เออ..ก็จริง ตอนแรกก็ตกลงกันให้มีพูดไทยคนนึง ไม่มีใครยอมเสียสละก็เลยเอาแบบนี้ล่ะกัน ทำแบบ opol ไม่ได้ก็ทำกึ่งๆ opol พูดไทยสัก 15-20 % ล่ะกัน เพราะบางคำเราก็ไม่รู้ บางคำก็ยาก บางทีจะได้อบรมสั่งสอนเค้าได้ถนัดปาก แต่ขอให้พูดจีน อังกฤษ หรือไทยป็นประโยคไปเลย อย่าพูด 2 ภาษาในประโยคเดียวกัน และเราก็เชื่อกันว่าเค้าอยู่ในสิ่งแวดล้อมไทยก็น่าจะได้ภาษาไทยไม่ยาก

เนื่องจากลูกยังเล็ก ก็เลยใช้ baby sign กับเค้าตลอดตั้งแต่เกือบ 7 เดือน ( ในงานวิจัยบอกว่า เริ่มสอนเค้าได้ตั้งแต่ 6 เดือน หรือเราดูว่าเค้ามี eye contact ฟังเราพูดได้ เพราะเค้าต้องใช้สายตาดูมือที่เราทำ หรือเด็กสามารถที่จะทำท่าสวัสดี บ๊ายบาย ส่ายหัว yes ,no ได้ก็สามารถสอนเค้าได้เลย แสดงว่าเค้าฟังเรารู้เรื่อง และควบคุมมือได้บ้าง )โดยตกลงสอนคำเดียวกันไปพร้อมกันทั้งภาษาจีน และอังกฤษตามหน้าที่รับผิดชอบแต่ละภาษาของพ่อ และแม่

เริ่มแรก เน้นคำที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวันก่อน เพื่อให้เค้าเห็นบ่อยๆ เช่น สอนตอนทานข้าว ก็พวก eat , water ,more ,all done ในห้องน้ำก็ take a bath , brush your teeth แล้วก็สัตว์ต่างๆที่มีโอกาสเห็นบ่อยเป็นรูปภาพติดในห้องเลย เช่น dog ,cat ,horse ,bird ,fish , ใช้สื่อการสอน DVD ชุด Baby Signing Time สอนทุกวัน เค้าก็ยังไม่ตอบกลับมา พยายามจนจะเลิก ไม่รู้ว่าลูกเราจะทำได้ไหมนี่ เพราะส่วนใหญ่เค้าจะตอบกลับมาตอน 9-10 เดือน ตอนที่เราสอนเค้า เค้าคงรู้ แต่ว่ายังไม่มีความสามารถบังคับมือ และนิ้วได้ในทิศทางที่ต้องการได้

ในที่สุดวันที่รอคอยก็มาถึง ( 4 เดือนกว่าที่สอนเค้าไป ) เจ้าจื่อเชวียนสามารถทำ sign more , all done ,hat ได้สำเร็จตอนอายุเกือบ 11 เดือนใช้เวลาเกินมาตรฐานไปหน่อย จนคิดว่าเค้าคงไม่ sign กลับมาแล้วล่ะ โดยเฉพาะ more เป็น signแรกที่ได้ และยังทำมือจีบชนกันอย่างสวยงาม ดีใจเหมือนว่าลูกพูดได้คำแรกเลยนี่ หลังจากนั้นเค้าเริ่ม sign คำอื่นๆได้เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว โดยได้ทั้งจีน และอังกฤษ โดยใช้ภาษามือ หรือ baby sign เป็นตัวเชื่อมว่าเป็นคำที่มีความหมายเดียวกัน

โดยเฉพาะช่วงที่พ้น 1 ขวบ หรือเดินได้แล้ว เจ้าจื่อเชวียนก็สามารถจดจำ sign และทำตามได้ไม่ยาก โดยเฉพาะของกิน สอนไม่กี่ครั้งก็ทำตามได้เลย ไม่ว่าจะเป็น banana ,orange ,strawberry ,grape,apple ,juice,cracker ,
สิ่งที่มีโอกาสเจอบ่อยๆ เช่น car ,motorcycle,flower, ball, light โดยทั่วไปเด็กวัยขนาดนี้ เนื่องจากกล้ามเนื้อมือ และนิ้วเค้ายังทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้ทำ sign บางคำได้ไม่เหมือนตามมาตรฐานของ ASL เช่น water ยังชู 3 นิ้วไม่ได้ เลยใช้การกำมือแตะข้างแก้มแทน , juice ยังทำแบบกำมือชูนิ้วก้อยโผล่ แล้วตวัดลงไม่ได้ ก็ทำมือแบบขยับนิ้วทั้ง 5 นิ้วแทน , cracker เอาแขนนึงตั้ง อีกมือแตะข้อศอกไม่ได้ ก็เอาสองแขนมาทับกันแทน นอกจากนั้น ยังมีบางคำที่ทำง่ายๆก็ไม่ยอมทำตาม ทำแบบที่ตัวเองชอบ แต่ก็คล้ายๆกับต้นฉบับ เช่น milk , elephant ,flower ,sock แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่สังเกตหน่อย ก็จำท่าทาง sign เค้าได้

ปัจจุบัน จื่อเชวียนอายุ 1 ขวบ 3 เดือนพอดี ( ณ.วันที่เขียนลง Blog ) สามารถ signได้ทั้งจีน และอังกฤษประมาณกว่า 40 sign ส่วนภาษาไทยก็ให้แม่บ้าน ( เพิ่งได้มาประมาณ 2 เดือน)ช่วยสอน sign แบบภาษาไทยให้ด้วย แต่ที่ผมแปลกใจ คือ ถึงแม้ว่าเราพูดไทยกับเค้าแค่ 15-20 % แต่เค้าสามารถพูดคำว่า หม่ำ ไป นม ได้ทั้งๆที่ไม่ใครสอน (ก่อนพี่เลี้ยงมา ) หรือเราสอนเค้าตบมือทั้งจีน และอังกฤษ ไม่เคยสอนไทย แต่อาจจะพูดกันเองว่า ยังไม่เคยสอนเค้าว่าตบมือเลย พอพูดว่า ตบมือ เค้าตบมือเลยทันที คิดว่าเค้าได้ยินจากสิ่งแวดล้อมจากเราพูดกันเอง แสดงว่าสิ่งแวดล้อมมีอิทธิพลต่อเค้ามาก ตอนนี้ผมก็เรียนรู้ภาษาอังกฤษ ส่วนภรรยาก็เรียนรู้ด้านจีนไปเรื่อยๆ ไม่งั้นเดี๋ยวเค้าตามทันเราแล้ว แย่เลย ไม่รู้จะสอนเค้าอย่างไร

ผมได้แนบไฟล์งานวิจัยเกี่ยวกับ Baby Sign ที่ละเอียดพอสมควร และชื่อ web site ที่เกี่ยวข้องกับ Baby Sign ไว้ด้วยครับ

research เกี่ยวกับ Signing.pdf

Sign With Your Baby.pdf ไฟล์นี้ได้มาจากคุณลัคณา มีเดชครับ
เป็นไฟล์ของคุณ Joseph Garcia ที่เล่าถึงประสบการณ์การใช้ baby sign กับลูกตัวเอง ผมดูคร่าวๆมีรูปภาพ baby sign ที่เห็นบ่อยๆเยอะเหมือนกัน รูปของการทำ sign ของเด็กที่ยังเล็กๆ ทำมือได้ไม่เต็มที่

http://www.signingsavvy.com
: ถาม Sign ได้แต่จะจำกัดต่อวันไม่เกิน 5-10 sign

http://www.signingtime.com
มีข้อมูลเกี่ยวกับภาษามือ หรือ sign เพียบ แต่อาจจะมีตัวอย่างของ DVD นิดหน่อย แต่ไม่มีเรื่องถาม Signได้ เป็นค่ายหนึ่งที่ สอน sign ได้สนุกมาก เพราะมีเพลงประกอบสนุก และติดหู ผู้ใหญ่ และเด็กๆก็ชอบครับ ขนาดลูกผมก็ชอบถึงขนาดทำ sign baby ขอดูอยู่เรื่อยๆ ส่วนตัวอย่างมากมายของค่ายนี้ ลองค้นจาก youtube มีเยอะครับ แต่อาจเป็นคลิปสั้นๆไม่เกิน 2 นาที

ในตอนต่อไป (ตอนจบ ) ผมจะพูดถึงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในการสอน Baby Sign ที่ได้จากการหาข้อมูลทางอินเตอร์เนท และประสบการณ์จากการใช้ของผมเอง รวมทั้งประโยชน์จากการใช้ Baby sign ที่ผมพบจากการสอนลูกว่า น่าทึ่ง น่าประหลาดใจเพียงใด.( อาจจะรู้สึกเวอร์นิดๆ แต่ก็อดไม่ได้ครับ )…………..