Posted by พ่อแม่น้อง Dragon on January 4, 2010 at 4:30pm
ในตอนแรก ผมได้เล่าถึงที่มา และประสบการณ์ในการทำ baby signบางส่วนของผมเอง ในตอนนี้จะกล่าวถึงวิธีการสอน baby sign และพฤติกรรมของ Dragon จากการที่ได้เรียนรู้ Baby signที่เค้าบอกให้เราทราบได้ เนื้อหาอาจจะเยอะหน่อยครับ แต่ผมตั้งใจรวบรวมมาให้ครบถ้วนที่สุดที่ผมบันทึกไว้ได้ ไม่อยากเขียนแบ่งเพิ่มไปอีกตอนเดี๋ยวข้อมูลจะกระจัดกระจายไปหน่อย ถ้ามีอะไรจะให้คำแนะนำผมเพิ่มเติม ยินดีนะครับ
เกร็ดเล็กๆน้อยๆในการสอน Baby Sign ที่ได้ข้อมูลจากทาง net และจากประสบการณ์ จากการใช้ baby sign กับเจ้า Dragon
1 . ทุกครั้งที่ทำ Sign ให้พูดด้วย เช่น ทำ sign More ก็พูด More ให้เค้าดูทุกครั้ง เป็นการย้ำให้เค้าทราบความหมายของ sign นั้น
2 . ถ้าเค้าชอบ หรือสนใจอะไรอยู่ ก็สอน sign นั้นเลย เช่น กำลังจับ หรือเล่น ball ก็สอน sign ball หรือ playเลย
- จับมือเค้าทำ sign ไปด้วย เช่น บอกว่า That ‘s the sign for ball แล้วค่อยให้ลูก ball หรือทุกครั้งที่ให้นม ก็ให้ถามว่า Do you want some milk ? โดยที่เราทำ sign milk ไปด้วย ขณะที่เจ้าตัวเล็กดื่มนม ก็อาจจับมือเค้าทำ sign แล้วพูดว่า That ‘s sign for milk ยิ่งเราทำต่อเนื่องมากเท่าไหร่ เจ้าตัวเล็กก็จะรู้เร็วมากเท่านั้น
- ช่วงแรกๆเริ่มสอน sign ด้วยของที่สามารถจับต้องได้ก่อน เช่น apple ,hat ,milk ,water ฯลฯ เพราะเค้าจะเข้าใจได้ง่ายจากสิ่งที่เค้าเห็น ส่วน moreถึงแม้จะไม่ใช่ของจับต้องได้ แต่เราเอามาประยุกต์กับพฤติกรรมให้เค้าทำซ้ำๆ มันก็ทำให้เค้าเข้าใจได้ง่ายเอง เช่น พอป้อนน้ำเสร็จแล้วแรกอาจจะถามว่า Do you want some more water ? พอป้อนหลายครั้งได้ที่แล้วอาจจะถามแค่ Do you want more ? more นี่ผมเอามาประยุกต์ใช้กับทุกอย่าง ไม่ว่าจะใช้กับของกินทุกประเภท ,พฤติกรรมต่างๆ เช่น play ,walk ,eat จริงๆแล้วมีคำว่า again เหมาะใช้กับลักษณะพฤติกรรมมากกว่า แต่ตอนนี้ผมไม่ได้เอามาใช้เนื่องจากกลัวเค้าสับสน ความหมายก็คล้ายกัน และเราก็ไม่ได้ใช้กับคนอื่นอยู่แล้ว และอย่าลืม sign ที่เราต้องทำกิจกรรมกับเค้าทุกวัน เช่นตอนป้อนข้าว อาบน้ำ เล่น ดังที่กล่าวมาแล้วในที่ผมเขียนไว้ในบล็อกตอนแรก
- ถ้ามีของจริง หรือของเสมือนจริงให้เค้าได้สัมผัส หรือเห็นจะช่วยให้เค้ารับรู้ sign ได้เร็วขึ้น เช่น ผมสอน sign dog ,bird จาก flashcard มานาน พอสมควร แต่เค้ายังไม่ยอมทำ ช่วงนั้นไม่ค่อยได้พาเค้าไปข้างนอก ตอนหลังก้อพาไปเดินสวนสาธารณะ ไปเห็นของจริง ได้สัมผัสสัก 2-3 ครั้งเค้าก็สามารถทำได้ ขนาดไปเห็นหมาแบบรูปปั้นที่ห้างสรรพสินค้า เค้าก็ sign ได้โดยที่เราไม่ต้องถามเลย
- สอนก็ต่อเมื่อเด็กสนใจเราอย่างน้อยสัก 7-10 วินาที เพราะต้องอธิบายบอกเค้า , ให้เค้าดูมือเรา และเค้าใช้สมองจดจำด้วย เจ้าตัวน้อยอาจจะทำหน้าฉงน หรือประหลาดใจ แสดงว่าเค้าพยายามทำความเข้าใจ และจดจำ sign นั้นอยู่
7.ถ้าเค้าพยายาม sign อันนั้นอยู่ แต่อาจยังไม่ได้ หรือไม่เหมือน ต้องอย่าลืมให้กำลังใจด้วย เช่น พูดชมเชย ปรบมือ ถึงไม่เหมือนคล้ายๆกันก้อน่าใช้ได้ เพราะบางทีเป็นเรื่องข้อจำกัดของกล้ามเนื้อมือ ,นิ้วของเด็กที่ยังเล็กอยู่ เวลาโตขึ้นกว่านี้ ก็ค่อยบอกเค้าใหม่ได้ หรือบาง sign อาจทำท่ายาก ก็คิดขึ้นมาเองก็ได้ครับ เพราะใช้กันเองภายในครอบครัว
- การทำ sign ต้องทำอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ ทุกครั้งที่เราส่ง sign ให้เค้าไป เค้ารับรู้อยู่ แต่อาจจะยังทำ sign ตอบกลับมาไม่ได้ เค้ากำลังเก็บรวบรวมข้อมูลอยู่ และถ้าเค้าได้ sign แรกเมื่อไหร่แล้ว sign ต่อไปก็จะมาเป็นชุดเลย
- อย่าใช้เวลาสอนนาน เด็กส่วนมากค่อนข้างเบื่อเร็ว อาจสอนเค้าสัก 1-2 นาที แล้วเปลี่ยนไปทำอย่างอื่น แล้วค่อยกลับมาสอนใหม่
10.จากประสบการณ์ของผมเอง ในช่วงแรกๆที่เค้ายังทำ sign ไม่ได้ หรืออายุไม่เกิน 1 ขวบ ไม่จำเป็นต้องเปิด DVD เกี่ยวกับทำ sign ให้เจ้าตัวน้อยดู เพราะการที่เราสอน sign จริงๆให้เค้าดู จะได้ประสิทธิภาพมากกว่า
11.การ sign ต้องถูกที่ถูกเวลาด้วย เช่น เจ้า dragon ชอบทำท่า baby เวลาเค้าอยากดู dvd ชุด Signing Time ซึ่งบางทีก็ดูมาหลายรอบแล้ว หรือเพิ่งดูไป หรือถึงเวลานอนแล้ว ก็อาจตอบเค้าว่า no หรือ stop พร้อมทำ sign ประกอบแล้วบอกเหตุผลให้เค้ารู้ด้วย แล้วดึงเค้าไปนอนเลย หรือกรณีที่อยากกิน cracker บนเตียง ก็พาไปทำกิจกรรมอื่นแทน
- ใจเย็นๆ และอย่าเครียดในการสอนเจ้าตัวน้อย สนุกกับการทำ sign กับลูก ถ้าวันนี้ยังไม่พร้อม วันพรุ่งนี้ก็ยังได้ ไม่ได้ sign นี้ ก็เอา sign อื่นแทน เจ้า Dragon บางคำเค้าก็ไม่ยอมทำ เช่น Play สอนเค้าตั้งนาน ยังไม่ยอมทำเลย , สอน sign papa และ mama ซึ่งเป็น sign ทำง่ายๆตั้งแต่เล็กๆเลย ไม่ยอมทำตาม มายอมทำตอนเกือบ 1.3 ขวบ แต่สอนเรื่องของกินนี่แป๊ปเดียว ไม่ว่าจะเป็น orange strawberry banana ทำได้เลย เพราะชอบเรื่องกินเป็นอย่างมาก
บางทีเราบอกให้เค้าทำ sign เค้าก็รู้ แต่ไม่ยอมทำ เป็นบางอารมณ์เหมือนกัน โดยเฉพาะตอนถ่ายคลิปวีดีโอได้แค่ 1-3 sign หรือบางครั้งก็ไม่ได้เลย ต้องเอามาตัดต่อรวมกันถึงได้เป็นชุดหน่อย
ประโยชน์อื่นๆที่หลายท่านทราบจากงานวิจัยที่ผมแนบไว้ในตอนที่ 1 แล้ว ยังได้เรื่องความใกล้ชิดระหว่างพ่อ แม่ ลูกมากขึ้นอีกด้วย เพราะต้องใช้เวลาคลุกคลีกับเค้าบ่อยขึ้น ส่วนเรื่องที่ว่าใช้ baby sign แล้วพูดช้า หรือไม่ยอมพูด มีทั้งตัวอย่างจากผลงานวิจัย และตัวอย่างจริงๆของน้องเพ่ยๆ ว่าไม่เป็นเช่นนั้น แถมยังช่วยให้ลูกพูดได้เร็วขึ้นอีกด้วย ถึงตอนนี้ลูกของผมยังพูดไม่ได้ แต่หลายครั้งก็พยายามพูดก่อน หรือขณะทำบาง sign ด้วย เช่น water , duck , frog ,cat ,juice ,milk , yes ,book
จากพฤติกรรมของ Dragon ที่ได้เรียนรู้ Baby sign แล้วนำมาใช้กับผม และภรรยา ที่ดูแล้วบางข้ออาจจะดูเหมือนไม่ค่อยมีอะไร แต่ในความรู้สึกของพ่อ กับแม่มันคือ ความปลื้มใจที่ลูกสื่อสารกับเราได้แม้ว่าเค้ายังพูดไม่ได้ก็ตาม คือ
- เวลาเราป้อนข้าว หรือขนมให้ แล้วเราลืมป้อนน้ำให้ เค้าก็สามารถ sign water ให้เรารู้ว่า เค้าหิวน้ำ หรือเค้าอยากกินนมก็ sign milk ได้ หรือเค้าอยากกิน cracker ,apple,strawberry,grape หรืออื่นๆ ก็ sign บอกเราได้ทั้งหมด เค้าชอบอะไรอยากกินอะไร ก็บอกเราได้ , ลดการร้องไห้ของเค้าได้ ผมชอบคำนี้ที่เค้าเขียนบอกมา เห็นภาพเลยครับ It ‘s great that he can not only communicate to me that he ‘s hungry ,but also what he wants to eat .
- ผมมีหนังสือเล่มนึงเกี่ยวกับสัตว์ต่างๆในป่า ตอนเราเปิดหนังสือเกี่ยวกับสัตว์ให้เค้าดู เราก็เห็นค้างคาว ก็สอนท่า sign ค้างคาวให้เค้า จับมือด้วย เค้าไม่ยอมทำตาม แล้วเอามือไปทำ sign orange ใต้คาง บางทีมันดูคล้ายๆ frog ก็เลยบอกเค้าว่าไม่ใช่ frog จับมือแล้วทำแบบนี้ เค้าก็ไม่ยอมทำตาม ประมาณ 2-3 ครั้ง พอครั้งสุดท้ายเค้าเลยชี้ไปทางส้ม แต่ผมไม่ได้สังเกตเห็นส้ม ซึ่งมีหลายลูกมากอยู่ข้างๆค้างคาว แล้วพูดภาษาของเค้า ( ถ้าแปลก็คงได้ว่า ป๊าหนูจะ sign orange ไม่ใช่ bat หรือ frog ซะหน่อย)
ตอนหลังถึงบางอ้อว่าเค้า sign orange ให้ผมดูนั่นเอง วันนั้นเลยรู้สึกปลื้มมากว่า เค้าเข้าใจบอกเรา
3.พาเค้าไปเดินที่ เซ็นทรัลเวริ์ด เห็นดอกไม้อยู่เต็มเลย ดีใจ ก็เลยรีบสอน sign flower เค้า ปรากฎว่าเค้า sign bear คราวนี้เรารู้ล่ะ มองรอบๆเจอ Teddy bear ตัวเบ้อเร่ออยู่ข้างดอกไม้ ( พ่อตาถั่วมองไม่เจอ Teddy Bear แต่แรกอีกล่ะ )
- เจ้า dragon อยู่ในห้องคนเดียว เผอิญผมโทรเข้าบ้าน แต่ว่าแม่เค้าอยู่ในห้องน้ำ โทรศัพท์ดังหลายครั้ง ไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ พอแม่เค้าออกมา ก็เจอเจ้า Dragon ทำ sign phone บอกว่ามีโทรศัพท์ดัง แต่แม่เค้าไม่ทราบว่า ทำ signนี้ทำไม ผมเข้าบ้านบอกแม่เค้า นั่นเอง เค้าถึงรู้ว่าเจ้า Dragon ทำ sign phone
- เค้าชอบดู DVD ชุด Baby Signing Time มาก เคยสอนเค้าให้ sign baby ถ้าต้องการดูชุดนี้ให้ทำ signนี้ เค้าชอบทำ sign นี้ให้ดูวันละหลายครั้ง บางครั้งเปิดการ์ตูนเรื่องอื่นอยู่ ก็ทำ sign อยากดูแผ่นนี้ ต่อไปถ้าให้ดู ชุด Leap Frog ต้องทำ sign frog , ดูชุด Kipper ต้องทำ sign dog , ดูชุด Wonder Pets ต้องทำ sign mouse ,chicken ,turtle หรือเปล่านี่
- จื่อเชวียนเค้าชอบหนังสือเรื่อง “ คุณฟองฟันหลอ “ มาก ซึ่งเป็นหนังสือเกี่ยวกับสอนเด็กให้แปรงฟัน ก็สอนเค้า sign book และ brush teeth พอเค้าอยากให้คุณพ่อ หรือคุณแม่อ่านนิทานเรื่องนี้ให้เค้าฟัง (อ่านเป็นภาษาไทย) เค้าก็ทำ 2 sign นี้ออกมาก็จะรู้ว่าเค้าอยากอ่านเล่มนี้
ึ7.ล่าสุด จื่อเชวียน sign potty ( ที่นั่งอึของเด็ก) เมื่อเค้ารู้สึกว่า ปวดอึ แต่เพิ่งเห็นเค้าทำแค่ 2 ครั้งทั้งๆที่สอนมานานแล้ว ก็เลยยังไม่แน่ใจว่า ถ้าเค้าอยากอึ จะสามารถ sign บอกเราได้ทุกครั้ง หรือยัง (เมื่อก่อนเคยจับ แพมเพิส แล้วทำ sign take a bath เอง แล้วถึงรู้ว่าอึ)
ยังมีพวกเล็กๆน้อยที่เวลาเค้าเจอสัตว์ต่างๆในสวนสาธารณะ เช่น หมา แมว นก ลิง ที่เค้าทำ sign ก็สามารถบอกเรา เสมือนว่าเค้าพูดกับเรา และบอกประเภทของสัตว์ได้จริงๆ
การใช้ Baby Sign ไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่ใช้ในการสร้างเด็ก 2 ภาษา เพราะหลายครอบครัวก็สามารถบรรลุเป็นเด็ก 2 ภาษาที่เก่งๆได้ไม่ยาก โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้ baby sign เพียงแต่ว่า ถ้าคุณพ่อ หรือคุณแม่มีเวลา และโอกาสผมมองเป็นเรื่องสนุกที่น่าเพิ่มเข้ามาระหว่างทางก่อนเราจะไปถึงจุดหมายนั้นครับ
ผมเชื่อในศักยภาพของเด็กทุกคนมีมาก และไม่ต่างกันเท่าไหร่ ขอเพียงคุณพ่อ คุณแม่ดึงศักยภาพเค้าออกมาใช้ให้ได้
เป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวครับ
ครอบครัวน้อง Dragon