เริ่มต้นจากศูนย์จนถึงวันนี้

Posted by ruangrong wiphaka on January 10, 2012 at 10:00pm

สวัสดีค่ะชาวสมาชิกหมู่บ้าน 2 ภาษา

ต่อจากหัวข้อที่แล้ว ” เริ่มต้นสอนลูกจากศูนย์ ” หน่อยยังไม่ได้เล่าให้ฟังเรื่องอุปสรรค และปัญหาที่ได้พบเจอระหว่างการเดินทางค่ะ เลยขอเล่าซะหน่อยค่ะ หน่อยเชื่อว่าทุกคนคงจะมีปัญหาไม่มากก็น้อย บ้านเราไม่มีปัญหาเรื่องการต่อต้านจากญาติพี่น้องค่ะ ( เพราะบอกและอธิบายทุกคนก่อนแล้วค่ะ) เลยถือว่าฉลุยเรื่องนี้ แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า เราไม่กล้าพูดค่ะ กลัวคนอื่นได้ยิน กลัวจะพูดผิด หน่อยเริ่มสอนลูกตั้งแต่เค้าเกิด ช่วงขวบปีแรกๆจึงไม่ยากที่จะใช้ภาษาอังกฤษกับลูกค่ะ เพราะเราเริ่มจากการพูดเป็นคำๆก่อน แต่เราก็ฝึกพูดเป็นประโยคสั้นๆไปด้วยค่ะ ตอนนั้นคิดว่าพูดผิดก็คงไม่เป็นไร เพราะว่าเค้ายังเล็กมากและเราก็ยังพูดไม่ค่อยได้ ยังจำได้ว่าตอนที่พูดภาษาอังกฤษครั้งแรก รู้สึกแปลกๆ ขำตัวเองค่ะ พอเริ่มออกนอกบ้าน หน่อยก็ยังไม่กล้าพูดค่ะ (คลังคำศัพท์มีไม่มากพอค่ะ) แต่ก็คิดอีกว่า ถ้าไม่เริ่มตอนนี้ แล้วจะไปเริ่มตอนไหน ยิ่งเริ่มเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น เพราะฉะนั้น เดินหน้าลุยเต็มที่เลยค่ะ มีคนมองเป็นเรื่องปกติ แรกๆก็ยังมีอาการประหม่าอยู่ แต่พอเราทำไปเรื่อยๆจนกลายเป็นความเคยชิน อาการเหล่านั้นก็หายไป สายตาคนที่มองส่วนใหญ่น่าจะเป็นแนวชื่นชมนะคะ มีบ้างบางส่วนที่คิดไม่ดี มองเหมือนประมาณว่าเรา มาตรฐานสูง อะไรประมาณนี้ค่ะ แต่หน่อยก็ไม่ได้สนใจนะคะ เป็นเรื่องขำๆไป ลูกเริ่มโตขึ้น เราก็ยิ่งต้องพัฒนาตัวเองให้ทันเค้า หน่อยเริ่มเกิดความกดดันเพราะเราไม่ได้คิดตรงนี้เอาไว้ก่อน ไม่ได้เตรียมพร้อมที่จะรับกับสถานการณ์นี้ ความกดดันทำให้เราหยุดทุกอย่างไปชั่วขณะ หน่อยหยุดพักไป ประมาณ 3 เดือน แล้วก็กลับมาคิดได้ว่า เราเคยแพลนอะไรเอาไว้ เราตั้งใจมุ่งมั่นมากแค่ไหนตอนที่เราเริ่มทำ แล้วจะหยุดง่ายๆแค่นี้หรือ หน่อยเข้ามาเอากำลังใจในเวปนี้แล้ว อืม เริ่มกลับมามีแรงกำลังใจอีกครั้ง คราวนี้จึงเริ่มต้นใหม่แบบสบายๆ ไม่กดดันตัวเอง และบอกลูกว่าเราจะพูดภาษาอังกฤษกับลูก ลูกอยากตอบภาษาไทยก็ได้ แต่ถ้าลูกตอบเป็นภาษาอังกฤษแม่จะดีใจมาก เพราะหน่อยคิดว่า การที่ลูกได้พูดออกมาจากความรู้สึกที่เค้าอยากจะพูด ลูกจะมีความสุขมากกว่า คราวนี้เราก็เลยมีความสุขกับการใช้ภาษาที่ 2 ค่ะ อุปสรรคข้อที่ 2 ผ่านไปได้แล้ว ปัญหาอีกอย่างที่หน่อยเคยคิดว่าน่าจะเป็นปัญหาก็คือ ลูกพูด 2 ภาษาปนกัน แต่หน่อยก็คิดได้ว่าไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเด็ก 2 ภาษา เพราะลูกยังไม่แตกฉานทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ก็ค่อยๆสอนกันไปค่ะ ลูกจะสามารเรียนรู้ได้เอง ลูกโตขึ้น หน่อยก็เริ่มคิดอีกว่าภาษาอังกฤษในการ์ตูน หนังภาพยนตร์ ข่าว สารคดีสัตว์ มีความแตกต่างกัน หน่อยเลยให้ลูกได้ฟังภาษาอังกฤษหลายๆแบบ หน่อยจะให้เค้าได้ดูการ์ตูนอย่างที่เค้าชอบ พอหมดเวลาของเค้า เราก็จะบอกลูกว่า “ It’s time for my favorite channel” คือเป็นการให้เค้าได้ฟังข่าว สารคดี reality show ไปโดยปริยาย บางครั้งเค้าก็นั่งดูกับเรา บางที่ก็นั่งเล่นอยู่ใกล้ ๆ แต่เสียงทีวีผ่านหูเค้าตลอดเวลาค่ะ การฟังเพลงก็มีส่วนสำคัญในการพัฒนาภาษาของลูกค่ะ บ้านเราฟังเพลงบ้างแต่ไม่ค่อยบ่อยเท่าไหร่ ช่วงระยะ 1 – 2 ปีที่แล้วเราเปิดเพลงฟังกันตลอดเวลาที่เดินทางไปไหน เป็นเพลงรวมฮิตของ eagle ปรากฏว่าลูกจับคำในเพลงได้แล้วถามเราว่าแปลว่าอะไร อืม ได้การบ้านทุกวัน ยากขึ้นเรื่อยๆ เราเลยปริ้นเนื้อเพลงมาอ่านด้วยกัน คืออ่านกับลูกเลย (เค้าเริ่มพัฒนาไปอีกขั้นจากการฟังเพลงค่ะ) รวมไปถึงการดูหนัง และการ์ตูน ที่บางคำเค้าไม่รู้ก็จะมาถามเรา นี่ก็เป็นแรงกระตุ้นให้เราต้องพัฒนาตัวเองเพิ่มขึ้นไปอีกค่ะ ทุกวันนี้ ภาษาอังกฤษของลูกดีขึ้นแต่ก็ยังมีส่วนที่ต้องปรับปรุงแก้ไขอยู่อีกมาก หน่อยจะพยายามต่อไปค่ะ ขอให้มีกำลังใจนะคะ อย่าท้อค่ะเพื่อลูกอันเป็นที่รักของเรา