Posted by สุภาพร(แม่ปั้น฿แป้ง) on February 1, 2010 at 5:00pm
มีเรื่องปลื้มนิดหน่อยค่ะ จริงๆก็เก็บไว้นานแล้ว ไม่กล้าลงบล๊อก อายย แต่กลัวว่า อีกหน่อย ก็คงจะลืม ก็ขำดีด้วยวันหลังลูกย้อนอ่านไปจนโต จะได้รู้วีรกรรม ตัวเองบ้างค่ะ
1.เมื่อเดือนที่แล้ว ไปทานข้าวนอกบ้านที่ร้านโอฬารสะเต็กข้างบ้าน นั่งที่โต๊ะ4 คนพ่อแม่ลูก วุ่นๆวายๆพอสมควรค่ะ ลุกสาว2คนก็พูดกับแม่เป็นภาษาอังกถษ ตามปกติ แล้วสักพักก็มีฟาหรั่งผมยาวหล่อกะแฟนคนไทยมานั่งโต๊ะเยื้อง ฟาหรั่งนั่งหันหลังให้นะคะ
ซักพักฟาหรั่งก็หันมายิ้ม เหมือนจะทักทาย ไอ้เราความกลัวฟาหรั่งจริงๆก็มีอยู่เยอะ หายเป็นช่วงๆค่ะ ลูกสาว พี่ปั้น เขาก็ชอบพูด โน่นเนี่ยไปด้วย แล้วเขาก็พูดคำนึงออกมา
Pun: Mommy Mommy…Khaopun FART!!!
Mom : Don’t speak too loud! ตามประสานิสัยคนไทย ที่เรื่องแบบนี้ก็จะไม่พูดในที่สาธารณะใช่เปล่าคะ
Pun : Mommy I fart again. เอ้ายิ่งพูดเหมือนยิ่งยุ
ฟาหรั่ง ก็คงได้ยิน เพราะ ลูกก็พูดซะดัง แฟนบอกฟาหรั่ง เขาก็หัน มา ยกนิ้วโป้งและ ยิ้มให้ ตอนหลังจากที่เข้าปั้นพูดว่า fart ค่ะ เขาก็หันมาเป็นระยะๆนะคะ เหมือน อยากจะให้เราทัก หรือเปล่าเนี่ย แต่ ไม่หรอกค่ะ แม่กลัวฟาหรั่ง
คือลูก2 คนก็คุยภาษาอังกถษแบบเด็กๆ ตลอดเรื่อยๆ น่ะค่ะ พอ เราทานเสร็จ เดินผ่านโต๊ะ เขา เขาก็ ยกนิ้วโป้ง และยิ้ม ให้อีกรอบ
จะเซ ไฮ ก็เกรงใจแฟนคนไทย ที่นั่งข้างๆซึ่งไม่ค่อยจะยิ้มเท่าไรเลย โดยเฉพาะตอนที่ฟาหรั่งยกนื้วโป้งให้เราค่ะ
ก็ ไม่รู้เขาคิดยังไงค่ะ เพราะ แม่ตอนนั้น อารมณ์กลัวฟาหรั่งกลับมาเป็นพักๆ อิอิอิ เลย อดคุยเลยค่ะ แต่แค่เขายกนิ้วให้ เราก็ปลื้มมากแล้วค่ะ มันอาจจะธรรมดาสำหรับท่านที่เก่งภาษาหรือเจอกะฟาหรั่งบ่อยนะคะ แต่ครอบครัวเรา แค่นี้ ก็เป็น ปลื้มแล้วค่ะ
2.มีคอมเม้นเล็กน้อย จากที่ รร มาน่ะค่ะ ว่า ข้าวปั้นเป็น คนเดียวที่ ไม่ต้องให้ครูไทยดูแลช่วยแปลอีกรอบค่ะ คือ เด็กคนอื่นจะต้องมีครูคอยประกบแปล หรือสอนอีกรอบค่ะ แต่ข้าวปั้นจะฟังครูฟาหรั่งและสื่อสารโต้ตอบได้เลยค่ะ คือครูฟาหรั่ง ชาวเมกาคอมเ้ม้นท์ มา เมื่อเดือน ธค เป็นอะไร ที่คุณแม่ปลื้มที่สุด (ไม่ได้ปลื้มตรงที่บอกว่าเป็นคนเดียวนะคะ ) แต่ปลื้มเพราะ เป็นมันตัววัดว่าเข้าปั้นฟังครูฟาหรั่งได้จริงหรือไม่ ครูฟาหรั่งชมเราก็ปลื้มค่ะ พอดีเห็นคลิ๊ปน้องโมขเลยเล่าให้ฟังด้วยค่ะ เรื่ิองนี้ ยังคิดอยู่เลยค่ะ ว่า นี่ถ้าเรียน อินเตอร์ไม่แท้หรือ แท้ หรือ รร EP ก็ตาม หาก ไม่ได้ปฎิบัติตาม วิธีแบบหนังสือคุณบิ๊กแนะนำ คิดว่าลูกคงไม่ได้ดีเท่านี้ค่ะ เพราะก็คงเรียนทั่วๆไป
กลับบ้านก็ไม่ได้ มาฝึกพูด ฝึกฟัง หรือดู vcd เทพ ก็กว่าจะพูดเป็นเหมือนเด็กที่เรียน interแท้ ก็คงนานหมดตัวหมดตังค์ และไม่รู้จะพูดได้ฟังเป็นขนาดไหนค่ะ โชคดีเหมือนอย่างน้องดา ว่า ที่ได้รู้จักสิ่งๆดีๆจากหนังสือ ไม่วาย ที่จะขอบคุณคนแต่งหนังสือครั้งแล้วครั้งเล่า ที่ได้พูดถึงค่ะ
- ไปร้านหนังสือ ก็เหตุการณเดียวคล้ายน้องดานั่นล่ะค่ะ เด็กที่ร้านก้บอกว่า น้องเป็นลูกครึ่งเหรอคะ พูดไทยได้ไหมคะ
- ไปsuper market ยายแก่ซัก60ปี แต่งตัวดีเหมือนครู ก็ชื่นชมเป็นปลื้ม เด็กๆใหญ่เลยค่ะ ก็สนใจถาม เราก็อาย เพราะ เราพูดไม่เก่ง แต่ลูกก็พูดไปเรื่อยๆแบบเด็กๆเท่าที่เขารู้
จริงๆ หลายครอบครัว ณ ตอนนี้ก็คงพุดกันเก่งและเจอแบบนี้กันเยอะแล้วล่ะค่ะ ความรู้สึกก็คง คล้ายๆกัน เป็นปลื้มแทนลูก บวก อายแม่ (อันนี้ส่วนตัว อิอิ) ใครอ่านแล้ว ก็ขอน้อมรับทุกความเห็นล่ะค่ะ นี่ก็บันทึกไว้กันลืมด้วยค่ะ แต่ก็รวมความปลื้มไว้ด้วยค่ะ
ขอบคุณคุณบิ๊ก และครอบครัวมากนะคะ ที่ให้โอกาส มากมายหลายอย่าง มีเรื่องปลื้มใจเล็กๆน้อยๆ หัวอกคนทำคนเห็นพัฒนาการลูก ก็อยากมาเล่าสู่ฟังค่ะ ( ป้าเล็กแม่เนย ตั้งฉายา ฉันเจ๋งไหม เนี่ย อายนะแต่เห็นจะจริง อิอิอิ ดูจากพถติกรรมแม่ปั้นแป้ง 555 ประมาณอย่างว่าเลยนะ ก็คนมันปลื้มอ่ะ อิอิอิ)
สู้ สู้ นะคะ ทุกท่าน