Posted by แม่เพ่ยขอแจม on May 18, 2012 at 11:15pm in ห้องรับแขก
จำได้ดีทีเดียว….เสาร์ 5 เดือน 5 ปี 55 อีกนิดเดียวเท่านั้น..จะ 5 โมงเย็น
ระหว่างที่พี่กำลังลั้ลลารำลึกความหลังครั้งวัยเยาว์กับเพื่อนเก่าเก็บที่คบหากันมานานกว่า 30 ปี เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นมาหยุดรอยอดีตไว้ตรงนั้น เพื่อให้เผชิญหน้ากับปัจจุบัน..โอ้ว
“สวัสดีค่ะหญิง..อ่ะอย่าบอกนะว่าอยู่กรุงเทพ..เหรอๆๆ…อ่ะ งั้นกินข้าวกันนะคะ..หญิงอยู่แถวไหนน่ะ อ้อ..เหรอ ..เออๆๆ..งั้นมากินโออิชิกัน ที่เมเจอร์ รัชโยธิน..ค่ะๆ ห้าโมงครึงเจอกัน เดี๋ยวพี่บอกพี่บิีกก่อน ..ค่ะๆๆ”
พูดเองเออเอง อยู่คนเดียว..หลังวางโทรศัพท์ก็เริ่มงงตัวเอง…เป็นข้อๆเลยค่ะ
1…ให้เขาอย่าบอกว่าอยู่กรุงเทพ….ทั้งๆที่เขาอยู่กรุงเทพ
2….ถามเขาว่าอยู่ไหน..เขาบอกอยู่สุขุมวิท แต่ดันนัดให้มาเจอเมเจอร์…แถวบ้านตัวเอง !!!
3….เพิ่งซัดโฮกก๊วยเตี๋ยวเรือชามใหญ่ไปสองชาม..หอยทอดหนึ่งกะทะ…กาแฟเย็นหนึ่งแก้วโตๆ..ทุกอย่างเพิ่งพ้นคอไปไม่เกินหลอดอาหาร..แต่ดันชวนเขาไปกินบุฟเฟ่….
ทั้งหมดนี้มันเป็นเพราะอิทธิพลของเลข 5 หรือเลข 4 กันแน่เนี่ย ^__^
ย้อนเวลากลับไป..พี่เจอหญิง แม่น้องกาตาร์ ลาเต้ ครั้งแรกที่ วช.เด็กสองภาษาที่กรุงเทพ จำได้ว่ามานั่งฟัง วช.อยู่คนเดียว..พอตกเย็นก็เริ่มกระสับกระส่าย เพราะทุกคนทะยอยกลับบ้านกันหมดแล้ว แต่หญิงยังไม่กลับ…เพราะรอพ่อเต้ยซึ่งชวนน้องกาตาร์ไปลั้ลลายังไม่กลับมารับ พวกเราเลยอยู่รอเป็นเพื่อน..แล้วพอพ่อเต้ยมา..หญิงก็เดินจากเราไป..ไม่เหลียวแล 5555 ช่ายเซ้……ฮึ่ม
จริงๆแล้ว คืออดทึ่งไม่ได้หญิงเป็นคุณแม่คนหนึ่งในบรรดาหลายๆคนที่เดินทางมาไกลมากกกกกก…เพื่อร่วม วช.เด็กสองภาษากับเรา..ดีใจ…ภูมิใจ…ตื้นตันใจ..ซาบซึ้งใจ..โอว..เยอะค่ะเยอะ
ช่วงแรกก็ยังไม่ค่อยสนิทกับหญิงสักเท่าไหร่ …จนกระทั่งคุณบิ๊กได้มีโอกาสเดินทางไปจัด วช. ที่หาดใหญ่ ชื่อของหญิงแม่น้องกาตาร์ จึงถูกบันทึกลวงเอ๊ย บันทึกลงในกินเนสบุ๊คของพี่ทันที
แล้วเราก็เริ่มติดตาม..การเคลื่อนไหวของหญิงมาโดยไม่คลาดสายตา..มีบ้างที่แอบเผลอ..และนั่นล่ะ เป็นเหตุให้เกิดน้องลาเต้ขึ้นมา อ่าาาาาา….
น้ำท่วมหาดใหญ่..เราก็คุยกัน…น้ำท่วมกรุงเทพ..เราก็คุยกัน…ขอบคุณความห่วงใยที่มอบให้แก่กันและกัน…แอบหวั่นๆว่าถ้าน้ำไม่ท่วมหาดใหญ่หรือกรุงเทพแล้ว พี่กับหญิงจะไม่ได้คุยกัน..งั้นเรามาตกลงกันนะคะ..ไม่ว่าน้ำจะท่วมที่ไหน..เราก็คุยกันนะคะหญิง หุหุ เอไอเอส..ดีแทค..ทรู..จงเจริญ !!!
พ่อคุย…แม่กิน..ลูกก็กิน
พ่อก็กิน..แม่ก็กิน..ลูกก็กิน…แล้วใครจะคุย????
กาตาร์……จุ๊ๆๆๆๆ 5555
ลาเต้..หน้าหวานมาก
ระหว่างทานข้าว..เราก็คุยกันเปะปะไปเรื่อย เพราะทั้งคุณเต้ยและหญิงจะต้องสลับกันดูแลเด็กๆ และเห็นลาเต้แป๋วแหว๋วแบบนี้…เจ้าเล่ห์นักเชียว..ไม่ยอมปล่อยให้แม่ได้มีโอกาสคุยกับใครนานเลยค่ะ
ทานมื้อหนักเสร็จ…เราก็โยกย้ายไปนั่งชิลๆที่ร้านกาแฟต่อ..ที่นี่พี่ได้ฟังเรื่องราวระหว่างหญิงกับคุณเต้ยแล้วก็อดขำไม่ได้..วัยรุ่นยุคไหนๆ..ความรักมักเริ่มต้นแบบนี้เสมอ..”ฉันพึ่งเธอนะ..เธอต้องชดใช้กรรมคืนฉันนะ” 555 พี่ไม่รู้ว่าจะตั้งชื่อตอนว่า…พรหมลิขิต หรือว่า…ชะตากรรมกำหนด ดี ถามหญิง..ก็ได้แต่หัวเราะ ในอดีตที่หวานแหว๋วของคนสองคนซึ่งต่อมาได้แปรเปลี่ยนเป็นครอบครัวเดียวกัน อยากจะแทะโลมอดีตรักมาแปะไว้ตรงนี้จริงๆ แต่ยังไม่ได้ขออนุญาตเลย..หุหุ
คุยเรื่องหนักๆสลับเบาๆเสร็จ ก็ได้เวลาส่งเด็กๆกลับที่พักเพื่อเข้านอน..พวกเราช่วยกันวางแผนการเดินทางให้ครอบครัวหญิง..ขึ้นรถไปลงเซ็นทรัลไป MRT ต่อ BTS หรือไปขึ้น BTS ที่จตุจักรเลย ทั้งนี้ทั้งนั้น ลืมไปว่า..สถานีปลายทางที่หญิงจะไป..MRT และ BTS มันกองอยู่ด้วยกัน เฮ้อออ..คนกรุงคิดเยอะนะเนี่ย สรุปว่าพ่อเต้ยบอกว่า..ลากแท๊กซี่ยาวเลยดีกว่า เพราะเด็กๆคงนอนหลับบนรถแน่…แล้วเราก็ส่งครอบครัวหญิงขึ้นแทีกซี่กลับที่พักโดยมีคนขับชื่อพงษ์ระพี (คุ้นๆเนอะ) โถ..(ขอบอก..ตั้งแต่ออกรถจนถึงโรงแรม..ไม่เห็นมีเด็กคนไหนหลับตามที่พ่อเต้ยพยากรณ์เลยค่ะ)
เสียดายว่าการมาเยือนครั้งนี้ของครอบครัวแม่น้องการ์ต้า เราได้มีโอกาสเจอกันแค่นิดเดียว..การดูแลและการเก็บภาพก็ทำไม่ได้มากดังที่เคยตั้งใจไว้..คราวหน้า..สัญญาว่าจะเก็บเกี่ยวโอกาสให้ดีกว่าครั้งนี้…
อย่างไรก็ตาม..ต้องขอบคุณมิตรภาพ..ความห่วงใย ความใส่ใจดูแลที่ครอบครัวหญิงและพ่อเต้ยมอบให้ต่อครอบครัวพี่และครอบครัวสองภาษาอีกหลายๆครอบครัวไว้ ณ ที่นี้ด้วย…การไปเยือนหาดใหญ่ทุกครั้ง..พี่บิ๊กจะกลับมาเล่าถึงความใจดีของครอบครัวหญิงตลอด
อยากบอกไว้ตรงนี้ว่า..พวกเราดีใจ..ที่ได้รู้จัก.ครอบครัวเตียวสกุลค่ะ ขอบคุณนะค๊าาาาาาา