อุปสรรคที่เจอในการสอนเด็กสองภาษามากที่สุดคืออะไร?

สี่ห้าปีที่ได้เห็นพ่อแม่ฝึกเด็กสองภาษามา สิ่งที่เห็นว่าเป็นอุปสรรคมากที่สุดก็คือ “พ่อแม่ไม่ทำความเข้าใจแนวคิดเด็กสองภาษาอย่างลึกซึ้งเพียงพอ” ทำให้สอนไม่แม่นยำ บางคนไม่สนใจเลยและสอนไปตามความเข้าใจของตนเอง ทำให้สอนผิดทิศผิดทางไปเยอะ กว่าจะรู้ตัวว่าสอนผิดและกลับมาแก้ไข ต้องใช้เวลาในการแก้ไขมากกว่าการสอนอย่างถูกต้องมากมายนัก อุปสรรคที่สองคือ “ความใจร้อน” พ่อแม่อยากให้ลูกเป็นเร็วๆ การสอนเน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ อยากได้หนังสือประโยคสนทนาทุกสถานการณ์ ไว้พูดกับลูก แทนที่จะเน้นการเตรียมตัวแต่ละสถานการณ์ให้ดีแล้วก็สอนตามนั้น เมื่อใจร้อนมากไป และผลที่ได้ไม่ได้เป็นอย่างที่ต้องการ จะทำให้เกิดความท้อถอย หงุดหงิดและเลิกไปในที่สุดครับ

อยากได้หนังสือคู่มือพูดภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน หาได้ที่ไหน?

หนังสือภาษาอังกฤษที่มีเห็นในท้องตลาด โดยส่วนใหญ่แล้วไม่สอดคล้องกับแนวคิดเด็กสองภาษา เน้นการแปล ใช้ภาษาไทยในการกำกับการออกเสียง เน้นประโยคสนทนาเยอะๆ ไม่เน้นคุณภาพ การฝึกตามแนวคิดเด็กสองภาษานั้นเน้น “น้อยแต่มีคุณภาพ”…เน้นพื้นฐานการออกเสียง เน้นการสร้างการพูดจากความรู้สึกมากกว่าการพูดได้เยอะๆ ดังนั้นหนังสือควรจะสอดคล้องกับแนวคิดนี้ครับ นอกจากหนังสือเด็กสองภาษาเล่มนี้แล้วผมยังทำหนังสือเด็กสองภาษาอีกเล่ม ที่เน้นพื้นฐานการฝึกทีละขั้น ทำตามทีละแบบฝึกหัด จากคำไปสู่วลี จากวลีไปเป็นประโยคครับ หนังสือเล่มนี้ชื่อว่า “เด็กสองภาษา ฉบับแบบชุดฝึก”

อยากได้หนังสือเด็กสองภาษาครบชุด หาซื้อได้ที่ไหนบ้างครับ?

หนังสือเด็กสองภาษามีวางจำหน่ายที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วไปครับ ไม่ว่าจะเป็นซีเอ็ด นายอินทร์ หรือ B2S แต่ถ้าต้องการซื้อเป็นชุดและได้ของแถมพิเศษเพิ่มเติม สามารถสั่งซื้อได้โดยตรงที่เว็บ 2pasa.com ครับ

เวิร์กช็อปเด็กสองภาษาคืออะไร จำเป็นต้องเข้าไหม?

เวิร์กช็อปเด็กสองภาษาก็คือการเข้าฟังบรรยายขั้นตอนการสร้างเด็กสองภาษาตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนกลายเป็นเด็กสองภาษา พร้อมกับยกตัวอย่างขั้นตอนการสอน และพิสูจน์ให้เห็นว่าแต่ละแนวคิดมันขับเคลื่อนไปได้อย่างไรในการสอนลูก เวิร์กช็อปนี้เป็นการฝึกพ่อแม่ ไม่ใช่เอาลูกมาฝึก ดังนั้นการเดินทางมาอบรมควรจะเป็นพ่อแม่ ตอนนี้ผมเปิดอบรม 2 เวิร์กช็อป คือหนึ่ง “เวิร์กช็อปเด็กสองภาษา” และสอง “เวิร์กช็อปโฟนิกส์และการออกเสียง” สำหรับเวิร์กช็อปที่สองนั้นจะเน้นการอบรมพื้นฐานการออกเสียงของภาษาอังกฤษว่าต้องเริ่มต้นอย่างไรดี ระบบการออกเสียงเป็นอย่างไร รวมถึงความเข้าใจผิดต่างๆนานาของคนไทยที่มีต่อภาษาอังกฤษ สำหรับคำถามที่ว่าจำเป็นต้องเข้าเวิร์กช็อปไหม? คนที่มาเข้าเวิร์กช็อปจำนวนมากแต่ละรุ่นส่วนใหญ่จะอ่านหนังสือมาแล้วทั้งนั้น และมักจะบอกว่า ในเวิร์กช็อปจะให้ความรู้สึกและความเข้าใจที่แตกต่างจากการอ่านหนังสืออยู่พอสมควร บางคนบอกว่าสะดวกและประหยัดเวลา เพราะไม่มีเวลาอ่านก็สามารถทำความเข้าใจแนวคิดเด็กสองภาษาจบได้ในหนึ่งวัน ผมอยากให้ดูคลิปวิดีโอความรู้สึกของคนที่เข้าเวิร์กช็อปแล้วค่อยตัดสินใจครับ

อยากได้ประสบการณ์ของการสอนเด็กสองภาษาของพ่อแม่คนอื่นด้วย

ในหนังสือเด็กสองภาษาทุกเล่มจะมีบทสัมภาษณ์พ่อแม่ที่ฝึกลูกเป็นเด็กสองภาษาอยู่ทุกเล่มให้เริ่มต้นอ่านจากตรงนี้ก่อนครับ จากนั้นผมอยากให้สมัครเป็นสมาชิกเว็บสองภาษาดอทคอม ซึ่งมีขั้นตอนง่ายๆและไม่เสียค่าใช้จ่าย จากนั้นก็เข้าไปอ่านบล็อก กระทู้ของพ่อแม่คนอื่น ในเว็บสองภาษาดอทคอมนั้นมีครอบครัวที่สนใจแนวคิดเด็กสองภาษากว่าสองหมื่นสามพันครอบครัวแล้ว ให้เลือกดูเด็กสองภาษาของแต่ละคนนะครับ

ถ้าเลือกระบบการสอนแบบหนึ่งเวลาหนึ่งภาษาแล้ว ควรเลือกเวลาแบบไหนดี?

ให้เลือกเวลาแบบตามสะดวกจะยืดหยุ่นในการใช้มากที่สุดครับ ไม่จำเป็นต้องกำหนดเงื่อนไขเวลาที่ตายตัวมากไป เช่นคุยภาษาอังกฤษจันทร์ถึงศุกร์ เสาร์อาทิตย์พูดไทย หรือพูดอังกฤษตอนเช้ากับก่อนนอน ให้เลือกตามสะดวกเลยครับ สะดวกเวลาไหนก็พูด แต่ต้องตกลงกับเด็กให้สลับโหมดการพูดให้ตรงกันด้วยครับ

ใครควรเป็นคนสอนภาษาที่สองดี พ่อหรือแม่?

โดยธรรมชาติแล้วผู้หญิงพูดเก่งกว่าผู้ชาย คนเป็นแม่มีเรื่องราวที่ต้องคุยมากกว่าคนเป็นพ่ออยู่เยอะ ถ้าคนสอนลูกเป็นหลักเป็นแม่ ก็จะช่วยเพิ่มความถี่ในการใช้ภาษาได้มากและมีรายละเอียดในการพูดคุยหลากหลายเรื่องราวมากกว่า ผมสนับสนุนให้แม่เป็นคนสอนเป็นหลักครับ แต่อย่างไรก็ตามถ้าเลือกระบบหนึ่งเวลาหนึ่งภาษาในการฝึก ก็ให้ช่วยกันพูดทั้งสองคน เพื่อเป็นการช่วยเพิ่มความถี่ให้มากขึ้นครับ

สอนลูกมาสักพักใหญ่ ลูกเริ่มพูดอังกฤษได้แล้ว แต่อยากหาคนอื่นมาพูดอังกฤษกับลูกด้วย ต้องทำอย่างไร?

ถ้าได้ฝรั่งก็จะดี แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ฝรั่งเป็นของหายากและมีราคาแพง ผมสนับสนุนเรื่องการสร้างกลุ่มเด็กสองภาษา เพื่อให้พ่อแม่พาลูกมาเจอกัน และชักชวนกันให้พูดคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งดูแล้วก็ไม่ต่างจากโรงเรียนอินเตอร์ ตอนนี้มีอยู่หลายกลุ่มทำอยู่ และทำได้ดี ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอุบลฯ พิษณุโลก รังสิต โคราช ชลบุรี ผมอยากจะเห็นกลุ่มเหล่านี้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ช่วยกันสร้างสังคมพูดสองภาษาขึ้นมา ให้กลายเป็นเรื่องปกติที่คนในสังคมทำกัน เพื่อนการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพด้วยมือของพวกเราเอง ไม่ต้องไม่รอภาครัฐมาสนับสนุนดังนั้นให้ลองเข้าไปเช็คกลุ่มในเว็บสองภาษาก่อน ว่าบ้านคุณใกล้กับกลุ่มไหนที่สุด แล้วเข้าสมัครเป็นสมาชิกของกลุ่มครับ

เมื่อลูกดื้อต้องอบรมสั่งสอนลูกเป็นภาษาอะไร?

ภาษาที่ใช้ในการอบรมดีที่สุดก็คือภาษาไทยครับ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่หนักหนาอะไรนัก จะพูดด้วยภาษาอังกฤษก็ได้ครับ ให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม การทำแบบนี้ไม่ผิดหลักของแนวคิดเด็กสองภาษาครับ รบกวนอ่านเพิ่มเติมในหลักข้อที่เจ็ด เลือกระบบให้เหมาะสมกับตัวเอง เพิ่มเติมอีกนิดสำหรับหลักข้อที่เจ็ด เมื่อคุณเลือกระบบหนึ่งเวลาหนึ่งภาษาในการสอนแล้ว อย่าเลือกเวลาที่เป็นเงื่อนไขมัดตัวเอง เช่นเลือกว่า จันทร์ถึงศุกร์พูดอังกฤษ เสาร์อาทิตย์พูดไทย เพราะเมื่อเกิดกรณีลูกดื้อวันจันทร์ คุณจะต้องรอถึงวันเสาร์กว่าจะได้อบรมเป็นภาษาไทย การเลือกเงื่อนไขในการพูดไทยหรืออังกฤษ ให้ยึดหลักตามสะดวกดีที่สุดครับ เพียงแต่ฝึกให้เด็กสลับโหมดให้ถูกต้อง ถามไทยตอบไทย ถามอังกฤษตอบอังกฤษ

เป็นพ่อแม่ที่อยากพัฒนาภาษาอังกฤษของตัวเองให้ดีขึ้นด้วย เพื่อสอนลูกและความก้าวหน้าในอาชีพ ต้องเริ่มต้นอย่างไรคะ?

ผมมีคำแนะนำสองข้อครับ ข้อแรกผมได้นำเสนอแนวคิด “พูดสองภาษา” ซึ่งเป็นแนวคิดที่ใช้ในการฝึกเด็กโตและผู้ใหญ่ในการพูดสองภาษาจากความรู้สึก ผมอยากให้พ่อแม่ที่สนใจ ลองศึกษาแนวคิดนี้ดูว่าน่าสนใจและยอมรับหรือเปล่า ถ้าใช่ก็เริ่มฝึกตามแนวคิดนี้ครับ ผมพยายามจะทำกลุ่มที่สนใจแนวคิดนี้มาฝึกด้วยกัน ขอให้ติดตามข่าวสารจากเว็บ 2pasa.com นะครับ ข้อสอง..ผมอยากให้เริ่มต้นที่ความเข้าใจเรื่องการออกเสียง ศึกษาเรื่องตัวกำกับการออกเสียง คิดถึงเรื่องไวยากรณ์ให้น้อย ให้ฝึกพูดจากความรู้สึก ซึ่งก็มาจากการเลียนแบบนั่นเอง

1 10 11 12 13 14 40