คือตอนแรกไม่รู้จักแนวคิดการสอนเด็กสองภาษามาก่อน จนกระทั่งได้มาอ่านหนังสือของคุณบิ๊ก เด็กสองภาษาพ่อแม่สร้างได้ โดยอ่านรวดเดียวจบ และคิดว่าเป็นวิธีที่น่าสนใจ และสามารถนำมาปรับใช้ได้จริง
หลังจากนั้นวิธีการเลี้ยงลูกก็เปลี่ยนไป โดยเริ่มค่อยๆนำเอาภาษาอังกฤษมาใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อยๆอย่างเป็นธรรมชาติ ตามแนวคิดของผู้ใหญ่บิ๊ก จนทุกวันนี้ลูกสามารถใช้ภาษาอังกฤษ ควบคู่ภาษาไทยได้อย่างดีขอบคุณผู้ใหญ่บิ๊กเผยแพร่แนวคิดนี้ด้วยครับ
ครอบครัวน้องจ๊ะจ๋า
พ่อแม่: ชัยยศ โชติเจริญสิน (พ่อกอล์ฟ) / ภัควดี สุวรรณรัศมี (แม่จูน)
ลูก: ด.ญ.กิตติ์ยากุล สุวรรณรัศมี (น้องจ๊ะจ๋า)
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
เคยเห็นพ่อแม่คนไทย พูดภาษาอังกฤษกับลูกมั้ย คุณรู้สึกอย่างไร?
ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะรู้สึกประหลาดใจปนทึ่งว่าทำได้อย่างไร เดี๋ยวนี้เริ่มเห็นเยอะขึ้นจนเป็นเรื่องปกติแล้วครับ แสดงให้เห็นถึงว่าพ่อแม่ยุคใหม่ใส่ใจในการเลี้ยงลูกมากขึ้น และถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เนื่องจากเป็นการเพิ่มศักยภาพให้เด็กไทยด้วยครับ
รู้จักแนวคิดเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ได้อย่างไร แล้วรู้สึกอย่างไรกับแนวคิดนี้?
บังเอิญได้ไปอ่านหนังสือ ” เด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ ” พออ่านจบก็รู้สึกว่าเป็นแนวทางที่น่าสนใจและน่าจะทำได้จริง ประกอบกับมีตัวอย่างให้เห็นว่ามีครอบครัวที่ทำได้จริงๆ จึงคิดว่าครอบครัวเราก็น่าจะทำได้เช่นกัน ก็เริ่มลงมือทำเลยและพอได้เริ่มทำแล้วก็สังเกตเห็นพัฒนาการทางด้านภาษาของลูกเพิ่มขึ้นทุกวันๆ ก็ยิ่งมั่นใจว่าเราได้มาถูกทางแล้ว จึงมุ่งมั่นทำต่อไปครับ
ระบบที่ใช้ฝึกตามแนวคิดเด็กสองภาษาแล้วทำไมถึงเลือกใช้ระบบนี้?
ใช้ระบบหนึ่งเวลาหนึ่งภาษาครับ เนื่องจากคิดว่าระบบนี้มีความยืดหยุ่นกว่า ระบบหนึ่งคนหนึ่งภาษาซึ่งดูตึงเกินไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละครอบครัวด้วยครับ และอีกเหตุผลหนึ่งคือพ่อกับแม่อยากช่วยกันสอนทั้งสองคน จึงเลือกระบบนี้ครับ
เริ่มต้นอย่างไร เจออุปสรรคอะไรบ้าง และแก้ปัญหาอย่างไร?
ก็พยายามทำตามคำแนะนำในหนังสือทีละขั้นๆ อุปสรรคคือ ครอบครัวเราเริ่มตอนน้องอายุ 2 ขวบกว่าๆแล้ว น้องสามารถพูดไทยได้ค่อนข้างมากแล้ว มีอาการต่อต้านเล็กๆ (แต่ไม่มาก) จึงพยายามใช้วิธีค่อยๆสอดแทรกภาษาอังกฤษใช้ในชีวิตประจำวันไปเรื่อยๆ เช่น กินข้าว อาบน้ำ แปรงฟัน ตามสถาณการณ์ที่พบได้เจอ ส่วนอุปสรรคอีกอย่างหนึ่งคือ ภาษาอังกฤษของพ่ออ่อนมากๆต้องหาความรู้เพิ่มเยอะเลยครับ
ระยะเวลาสอนจนเด็กเริ่มพูดโต้กลับเป็นภาษาอังกฤษใช้เวลานานแค่ไหน และเสี้ยวเวลาที่ลูกพูดตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษรู้สึกอย่างไร?
ประมาณ 5-6 เดือนครับ พอลูกเริ่มตอบโต้ได้ จำได้ว่าตอนนั้นดีใจมากๆ และเป็นสัญญาณที่ดีว่าเรามาถูกทางแล้วให้พยายามต่อไปครับ
ระดับภาษาอังกฤษของพ่อแม่ตอนเริ่มสอนเป็นอย่างไร มีความมั่นใจแค่ไหนในการสอนลูก?
สำหรับคุณแม่ภาษาค่อนข้างดีอยู่แล้ว เพราะคุณแม่ใช้ภาษาอังกฤษในการทำงานด้วย แต่ถึงยังไงก็ยังต้องรื้อฟื้นเพราะภาษาที่ใช้ในการทำงานกับภาษาที่ใช้กับลูกค่อนข้างมีความแตกต่างกันพอสมควร ส่วนคุณพ่ออ่อนมากๆ เรียกได้ว่าเรียนรู้ไปพร้อมๆกับลูกเลยครับ
นอกจากอ่านหนังสือเด็กสองภาษาแล้ว เคยเข้าเวิร์กช็อปหรือเปล่า หลังจากเข้าแล้วรู้สึกอย่างไร?
หลังจากที่อ่านเล่มแรกและตัดสินใจคิดที่จะทำตามแนวทางเด็กสองภาษาแล้ว จึงไปตามหาอ่านจนครบทุกเล่ม และเข้าทุกเวิร์กช็อปครับ ซึ่งจริงๆแล้วหนังสืออธิบายได้ชัดเจนอยู่แล้ว แต่การเข้าเวิร์กช็อปทำให้เราเห็นภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้นครับ
รู้สึกท้อไหม อะไรคือสิ่งหล่อเลี้ยงที่ทำให้ไม่หยุดสอน และเดินหน้าต่อจนลูกเป็นเด็กสองภาษา?
บางทีก็มีเหนื่อยบ้างครับ แต่ก็รู้สึกหายเหนื่อย เมื่อได้เห็นพัฒนาการทางด้านภาษาของลูกเรา และคิดว่าสอนไปยังไงวันหนึ่งลูกเราก็ต้องได้ใช้แน่นอน
ประสบการณ์ที่เด็กเจอเจ้าของภาษาเป็นอย่างไร?
โดยส่วนตัวจ๊ะจ๋าค่อนข้างจะเป็นเด็กขี้อายและไม่ค่อยกล้าคุยกับคนที่ไม่ค่อยคุ้นเคยอยู่แล้ว จึงไม่ค่อยได้ตอบโต้สื่อสารเท่าที่ควรครับ แต่ถ้าถามว่าเขาคุยอะไรมา ก็สามารถบอกได้ครับ คือฟังรู้เรื่องแต่ยังไม่ค่อยตอบ
เสียงตอบรับในการสอนลูกเป็นเด็กสองภาษาของคนรอบข้าง?
ถือว่ามีเสียงตอบรับที่ดีครับ สำหรับบางคนที่รู้จักก็จะรู้สึกประหลาดใจว่าพ่อแม่ไม่เก่งภาษาอังกฤษทำได้อย่างไร
คำแนะนำให้กับพ่อแม่ที่กำลังคิดสอนลูกเป็นเด็กสองภาษา
ทำเถอะครับ เริ่มวันละนิดวันละหน่อยก็ยังดี ค่อยๆทำค่อยๆสะสมไปเรื่อยๆ ยังดีกว่าไม่ได้เริ่มครับ แล้วเราจะประหลาดใจในศักยภาพของเด็ก และข้อดีอีกอย่างของการเรียนรู้หลายๆภาษาจะเป็นประโยชน์มหาศาลต่อลูกของเราในภายหน้าแน่นอนครับ